การสวดมนต์นั้น เป็นเจตนาในการฝึกขัดเกลาจิตใจ เพื่อให้ถึงบุญในการชำระล้างจิตใจ หลบเลี่ยงจากอกุศลทั้งปวง บทสวดมนต์ที่กำหนดไว้ว่าต้องสวดจำนวนเท่านั้นเท่านี้ จริงๆแล้วจะสวดครบหรือไม่ครบก็ไม่ได้มีความเสียหายอะไร
เพียงแต่ว่าเราต้องรู้ว่า หากเราต้องการขัดเกลาจิตใจของเรานั้นต้องการเรื่องไหนเยอะเช่น หากต้องการวิริยะอุตสาหะมากๆ เราก็เพิ่มจำนวนของการสวดเข้าไป เพื่อฝึกให้เกิดความวิริยะ อุตสาหะ อดทนอดกลั้นให้มากขึ้น
หากสวดน้อย…จิตของเราก็ไม่ถูกขัดเกลาในทิศทางที่เราต้องการ อย่าไปคิดว่าต้องสวดเท่านั้นเท่านี้ถึงจะเกิดผล เราต้องรู้ว่าเราเองต่างหากต้องการผลอะไร เราจึงเลือกกระทำการสิ่งนั้นด้วยตัวเราเอง
หากเราต้องการสัจจะวาจา เราก็ทำให้มีวินัยทุกวัน และตั้งใจให้สวดครบตามจำนวนที่ตั้งใจไว้ หากเราต้องการความอดทนอดกลั้นก็เพิ่มเวลาสวดให้มากขึ้น หากเราต้องการสติและสมาธิ ก็ให้สวดโดยเปิดอ่านบทสวด ให้สายตาเห็นตัวอักษรไปด้วย
เพื่อให้ ตาดู หูฟัง สมองคิด มือสัมผัสการรับรู้ผ่านอายตนะทั้ง 6 สร้างการรับรู้และตัวรู้ในจิตของเราครับ
ฉะนั้นหากเข้าใจวัตถุประสงค์การสวดมนต์อย่างถ่องแท้แล้ว ก็สามารถเลือกกระทำเพื่อให้เกิดผลตามที่ตนเองต้องการได้โดยง่าย