เรื่องที่สำคัญที่สุดกลับเป็นเรื่องที่ยากที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ แต่บางท่านที่มีประสบการณ์แล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ง่าย เรื่องที่พูดถึงนี้คือการดับนิวรณ์ทั้ง 5
นิวรณ์ทั้ง 5 หมายถึง “ เครื่องปิดกั้นขัดขวางไม่ให้บรรลุธรรม ” เป็นการขัดขวางไม่ให้เข้าถึงจิต เป็นตัวอุปสรรคที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติ ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ จนบางครั้งบางท่านล้มเหลว และล้มเลิกการปฏิบัติไปเลยทีเดียว ฉะนั้นเราจะต้อง เรียนรู้และเข้าใจในการกำจัดนิวรณ์ทั้ง 5 ตัวนี้อันประกอบไปด้วย
(1) กามฉันทะ คือความพอใจติดใจหลงใหลในกามโลกีย์ทั้งปวง ยึดติดอยู่ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส มีความต้องการปรารถนารักใคร่
แก้ด้วย…องค์ฌานต้องปฏิบัติสมาธิให้ได้องค์ฌาน จะเกิดความดับ กามฉันทะดับได้ชั่วขณะ ก็หมั่นฝึกฝนปฏิบัติองค์ฌานให้เป็นประจำต่อเนื่อง ให้จิตทรงอารมณ์ฌานได้ มีอารมณ์ เอกัคคตาในจิต ความพอใจในการมาฉันทะจะลดลงได้
(2) พยาบาท คือความไม่พอใจ ความไม่ได้ดั่งปรารถนา เปรียบ เสมือนน้ำที่กำลังเดือดพล่าน
แก้ด้วย…การเจริญเมตตาพรหมวิหาร เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ฝึกเจริญเมตตาธรรมความรู้สึกน้อมนำจิตใจให้เป็นความเมตตา แผ่ออกไปทุกทิศทุกทางด้วยจิตที่เป็นเมตตา ทำทุกวันยกจิตให้เป็นเมตตา
(3) ถีนมิทธะ ความขี้เกียจ ท้อแท้ หมดกำลังใจ ไม่หึกเหิม ง่วง
แก้ด้วย…อิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา สร้างความรู้สึกปรารถนาอยากพ้นทุกข์ ให้เกิดขึ้นในจิตใจ สร้างความรู้สึกเบื่อหน่ายกับความทุกข์ ที่ ต้องทนและแก้ปัญหามานานแล้ว ความเบื่อหน่ายและความอยากที่จะพ้นทุกข์ จะ “ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ในการสร้างความเพียร ” ไม่ย่นย่อและต่อเนื่องเพื่อให้สำเร็จตามปรารถนา
(4) อุทธัจจะ กุกกุจจะ ความคิดที่ไม่สงบนิ่ง จิตใจ สอดส่าย ฟุ้งซ่าน ตลอดเวลา
แก้ด้วย…การฝึกสวดมนต์เร็ว ออกเสียงและตั้งใจสวดอย่างต่อเนื่อง ให้เร็วที่สุดอย่างน้อย 15 นาที ทำแบบนี้ทุกวันต่อเนื่อง
(5) วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย ความไม่แน่ใจ ความกังวลกล้าๆกลัวๆ
แก้ด้วย…ความศรัทธา ศึกษาเรื่องความเชื่อกฎแห่งกรรมว่ากรรมมีอยู่จริง ฝึกฝนเรียนรู้เหตุปัจจัยแห่งการเกิดที่เป็นทุกข์ และการส่งผลของแรงกรรม