เมื่อได้กุญแจสำคัญและแรงขับเคลื่อนในการพาชีวิตสู่ความสำเร็จแล้ว ต้องเริ่มต้นทำความเข้าใจและทำใจ…ยอมรับ…ความเป็นจริง 8 ประการที่เรียกว่า “ โลกธรรม 8 ”
เป็นความเป็นจริงที่ปรุงแต่งไม่ได้… เป็นความเป็นจริงที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจเพื่อการ “ยอมรับ” และแก้ไขความทุกข์ หากเข้าใจอย่างถ่องแท้ ความทุกข์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ มันสามารถขจัดทิ้งได้ง่ายนิดเดียว
พระตถาคตได้อธิบายถึงความเป็นจริงในชีวิต ความเป็นธรรมชาติที่ไม่มีอะไรสามารถปรุงแต่งได้ เมื่อเรามีการเกิด เราก็จะได้ความแก่… ความเจ็บ… ความตาย… ตามมาด้วยเสมอ
ไม่มีสิ่งใดจะตั้งอยู่ได้ตลอดไป ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องสูญสลาย ฉะนั้น “ การยึดมั่นถือมั่น ” ในวัตถุสิ่งต่างๆของแม้กระทั่งชีวิตก็ไม่สามารถฉุดรั้งให้คงอยู่กับเราได้
หากได้ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว… เข้าใจโดยพิจารณาอย่างแยบคายแล้ว เราจะรู้ว่ามันเป็นความเป็นจริงของโลกใบนี้ที่เราอยู่อาศัย
เมื่อเราเกิดมาต้องเลี้ยงชีพหาอาหาร เลี้ยงชีวิต แล้วก็พักผ่อนนอนรอวันใหม่จะเป็นอย่างนี้ไปจนกระทั่งตาย
“ ฉะนั้นสาระสำคัญของชีวิตคือ เกิด แก่ เจ็บ แล้วก็ตาย ” จบแล้วแค่นี้ไม่มีอะไรมากกว่านี้ แต่พอเรามาอยู่ในโลกมีพ่อ มีแม่ มีแฟน มีลูก มีญาติ มีเพื่อน มีสังคม มีการปกครอง สังคมบอกว่าจะต้องไปเรียน สังคมบอกว่าจะต้องทำงาน เพื่อหารายได้เอามาซื้ออาหารเลี้ยงชีพของตนเอง
สังคมขับเคลื่อนชีวิตเรา สังคมที่ทำให้เราอยากมีความทัดเทียม มีบ้าน มีรถ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข มีทุกข์ มียศ มีตำแหน่ง มีแล้วก็อยากมีเพิ่มขึ้นอีก ทั้งหมดนี้เป็นอารมณ์ของโลก อารมณ์หลงโลก ที่หลอกเราให้ลืมสาระสำคัญของชีวิตที่กำลังอยู่ข้างหน้า ลืมไปว่าความเป็นจริงที่รออยู่คือ “ ความตาย ”
อารมณ์ของโลกทั้งหมดที่ครอบงำจิตใจเรา ความอยากได้…อยากมี…อยากเป็น… ต่างๆเข้ามากระทบจิตใจเรา ความพอใจ ไม่พอใจกับสิ่งนั้นสิ่งนี้ เริ่มเบียดเบียนกัน เบียดเบียนด้วยวาจา เบียดเบียนด้วยกาย ด้วยอาวุธ ก็เพราะความคิด ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันในเรื่องโลกธรรมที่ครอบงำเราอยู่
ความทุกข์ทั้งหลายเกิดจากสัมผัสที่มากระทบใจเรา ครอบงำจิตใจเราให้เคลื่อนที่ไปตามความทะยานอยากใช้ชีวิต เราต้องพิจรณาหลักของความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้นี้ และยอมรับเพื่อละวาง ไม่ทุกข์ หรือทุกข์น้อยลงด้วยเหตุที่เข้าใจว่า เราเกิดมาแล้วก็ต้องตาย ทุกอย่างล้วนสมมุติ นำติดตัวไป ไม่ได้…
โลกธรรม 8 เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ
เมื่อมีลาภ ก็มีการเสื่อมลาภ
เมื่อมียศ ก็มีการเสื่อมยศ
เมื่อมีสรรเสริญ ก็มีนินทา
เมื่อมีสุข ก็มีทุกข์
เป็นความจริง เป็นธรรมดาของโลกใบนี้ ไม่มีอะไรที่ได้มาแล้วอยู่ยั่งยืนตลอดไป มีแต่ได้มาแล้ว…แล้วรอวันเสื่อมสลาย ความทุกข์ต่างๆที่เกิดขึ้นจากความไม่สมปรารถนา ถ้าเราเข้าใจว่ามันต้องเป็นเช่นนี้
มันเป็นความจริงเช่นนี้จะทะยานอยากไปอีกเพื่ออะไร ต้องหาวิธีลดความทะยานอยาก เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต ไม่ให้เป็น “ คนหลงโลก ” หลงกับสังคมที่ครอบงำจิตใจเราครับ